skip to Main Content


Written By P’NOK EFL

การเดินทางไปประเทศอังกฤษ

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้น้องๆ หลายๆ คนอาจกำลังอยู่ในระหว่างการเตรียมตัวเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษซึ่งกำลังจะเปิดเทอมใหญ่ในเดือนกันยายนที่กำลังจะถึงนี้ และสำหรับน้องๆ บางคนที่อาจจะเพิ่งเคยเดินทางไปต่างประเทศหรือเดินทางไปประเทศอังกฤษเป็นครั้งแรก วันนี้พี่ๆ ทีมงาน EFL จึงทำรีวิวการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิประเทศไทย สู่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยสายการบิน Emirates มาฝากกันค่ะ ใครที่มีแผนเดินทางไปเรียนต่อ สามารถศึกษาไว้เป็นแนวทางการเดินทางได้เลยค่ะ

เริ่มจากออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไฟลท์ EK371 เวลา 02.20 น. โดยเคาน์เตอร์จะเปิดให้เช็คอินประมาณ 23.00 น. ค่ะ ทิปเล็กๆ น้อยๆ คือ ให้เช็คอินออนไลน์มาก่อน ซึ่งทำผ่านคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนก็ได้ค่ะ โดยปกติแล้วทางสายการบินจะเปิดให้เช็คอินล่วงหน้าประมาณ 24-48 ชั่วโมง เมื่อเช็คอินออนไลน์แล้วพอมาถึงหน้าเคาน์เตอร์ก็สามารถต่อแถวช่อง Online Check-in ได้เลย ซึ่งแถวจะสั้นกว่าแถวปกติมาก น้องๆ จะได้ไม่ต้องรอนาน ประหยัดเวลาไปได้เยอะ และยังสามารถเลือกที่นั่งที่ถูกใจได้ก่อนด้วยค่ะ


Emirates Online Check-in

การเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึง ดูไบ ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงค่ะ ปัจจุบันสายการบินใช้เครื่องบินรุ่น A380 ซึ่งมีขนาดค่อนข้างใหญ่มาก แถวที่นั่งแบบ 3-4-3 (หากเลือกที่นั่งชั้น Upper Deck จะเป็นแบบ 2-4-2) ที่นั่งกว้างขวาง นั่งสบายมากค่ะ


การเดินทาง BKK-Dubai ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

เมื่อมาถึงสนามบินดูไบ ให้สังเกตป้าย Connecting ไว้นะคะ จะมีบอกตลอดทางและระหว่างทางจะะมีหน้าจอให้เช็คว่าเครื่องบินไฟลท์ต่อไปของเราต้องไปบอร์ดดิ้งที่เกทไหนค่ะ สำหรับไฟลท์ต่อไปของพี่คือ EK001 Dubai – London Heathrow ค่ะ เรื่องสำคัญมาก! อย่าลืมปรับนาฬิกาด้วยนะคะ เวลาที่ดูไบช้ากว่าไทย 3 ชั่วโมง เป็นสิ่งที่สำคัญที่ต้องเช็คเวลาให้ดีๆ ค่ะ หากเป็นไปได้ให้เดินไปดูก่อนว่าเกทของเราอยู่ที่ไหนแล้วหากมีเวลาค่อยไปเดินเล่นช้อปปิ้งนะคะ เพราะหากพลาดตกเครื่องจะเป็นปัญหาใหญ่ได้ค่ะ


หน้าจอสำหรับการเช็คเกทสำหรับไฟลท์ต่อไปค่ะ

ไฟลท์จากดูไบไปลอนดอนของพี่คือ EK001 ค่ะ ออกจากสนามบินดูไบเวลา 07.45 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่งโมงก็ถึงสนามบินนานาชาติฮีทโทรว์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษค่ะ เมื่อเครื่องลงแล้วพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะแจกเอกสาร Landing Card ให้กรอก (หรือถ้าไม่ได้ก็มีให้หยิบกรอกได้ที่จุดก่อนเข้าในส่วนของตรวจคนเข้าเมืองค่ะ) กรอกให้ครบถ้วนเรียบร้อยและต่อแถวรอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้เลยค่ะ


ตัวอย่าง Landing Card

ในขั้นตอนตรวจคนเข้าเมืองนั้น เจ้าหน้าที่อาจจะขอดูเอกสาร* และถามคำถามเรานิดหน่อย เช่น เรามาทำอะไร? มานานกี่วัน? ไม่ยากเลยค่ะ หากฟังไม่ทันหรือไม่แน่ใจก็สามารถถามเจ้าหน้าที่ซ้ำได้นะคะ เจ้าหน้าที่ไม่ดุเลยค่ะ

พอผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้วก็ให้ดูที่หน้าจอว่ากระเป๋าของเราอยู่ที่สายพานไหนและไปรับได้เลยค่ะ อย่าลืมตรวจสอบให้มั่นใจนะคะว่าเป็นกระเป๋าของเราแน่นอน อาจทำสัญลักษณ์ไว้สักหน่อย จะได้สังเกตง่ายๆ ค่ะ

รับกระเป๋าออกมาแล้วให้เดินออกไปภายนอกโดยสังเกตป้าย Exit ค่ะ เมื่อออกมาแล้วจะเห็นร้านขาย SIM Card เป็นที่แรกเลยค่ะ (เที่ยวบินของสารการบิน Emirates เครื่องจะลงที่ Terminal 3 นะคะ หากเป็น Terminal อื่นก็จะแตกต่างออกไปค่ะ) หากน้องๆ พอมีเวลาก็แวะจัดการเรื่องซิมโทรศัพท์ให้เรียบร้อยได้เลยนะคะ มีซิมการ์ดหลายประเภทและหลากหลายเครือข่ายให้เลือกใช้บริการ น้องๆ สามารถขอคำแนะนำจากพนักงานเพื่อหาซิมการ์ดที่เหมาะสมกับการใช้งานของน้องๆ ได้เลยค่ะ


ร้านขาย SIM CARD – London Heathrow Airport Terminal 3

* เอกสารที่ควรนำติดตัวตอนเดินและอาจต้องต้องสำแดง มีดังนี้
1. พาสปอร์ตตัวจริง
2. แบบฟอร์มเข้าเมืองที่กรอกเรียบร้อยแล้ว
3. Offer Letter หรือใบตอบรับเข้าเรียน
4. Evidence of Financial Support (ใบรับรองสภานะทางการเงิน)
5. IOM Certificate (ใบรับรองการผลการตรวจหาเชื้อวัณโรค)


น้องๆ คนไหนมีคำถาม หรือมีข้อสงสัย สามารถถามพี่ได้ที่ ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ Education For Life, EFL ตัวแทนของมหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ บริการฟรีทุกขั้นตอน Tel. 086 304 2420, 02 129 3527 หรือ แอดไลน์ได้ที่ Line ID: @EFLBKK